ซึ่งหมายถึงหลักฐานทั่วไปที่จะต้องใช้ประกอบการร่างฟ้องและกำหนดเรื่องค่าทดแทนที่จะเรียกร้อง เช่น
1. สำเนาใบสำคัญการสมรส
2. สำเนาบัตรประชาชน ของผู้ฟ้องคดี
3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อของเรา หรือของคู่สมรส
4. ทะเบียนบ้าน ของผู้ฟ้องคดี
5. สูติบัตร (เฉพาะในกรณีมีบุตรด้วยกัน)
6. หลักฐานเกี่ยวกับอาชีพรายได้ของเราและคู่สมรส เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน
7. หลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของเราและคู่สมรส เช่น สำเนาใบปริญญาบัตร
8. หลักฐานเกี่ยวกับการมีฐานะทางสังคมของเรา และคู่สมรส เช่น การดำรงตำแหน่งนักการเมือง การประกอบอาชีพดารา หรืออาชีพที่มีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก
9. หลักฐานเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานทั้งนี้หากหลักฐานบางอย่างไม่มี ก็ยังไม่เป็นไร ยกเว้นอย่างเดียวคือต้องมีใบสำคัญการสมรส หรือหลักฐานการสมรส ถึงจะสามารถฟ้องได้
ซึ่งหมายถึงพยานหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่า ชู้กับคู่สมรสมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกันจริง เช่น
1. หลักฐานการสนทนากันระหว่างชู้กับคู่สมรส ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เฟสบุ๊ก ( อ่านเพิ่มเติม เรื่อง การนำพยานหลักฐานอิเล็กโทรนิกส์มาใช้ในชั้นศาล )
2. หลักฐานรูปคู่ วีดีโอ ภาพถ่ายที่ได้จากการสืบชู้ ที่แสดงให้เห็นว่าตัวชู้กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน ( อ่านเพิ่มเติม เรื่อง การหาพยานหลักฐานประเภทกล้องจรปิดมาใช้เป็นพยานในชั้นศาล )
3. หลักฐานการเดินทางไปสถานที่ต่างๆของคู่สมรส เช่น ใบเสร็จค่าที่พัก หลักฐานบันทึกการเดินทางจาก google map หลักฐานการเข้าพักโรงแรมต่างๆ
4. หลักฐานเกี่ยวกับการซื้อของให้กันระหว่างชู้กับคู่สมรส เช่นใบเสร็จรับโอน
5. หลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินให้กันระหว่างคู่สมรส ใบเสร็จการโอนเงิน หรือสลิปการโอน
6. หลักฐานการถ่ายรูปของชู้ ที่เป็นรูปเดี่ยว แต่อยู่ในสถานที่ของคู่สมรส หรือรูปถ่ายติดรัพย์สินของคู่สมรส เช่นถ่ายแล้วติดรูปรถยนต์ รูปคอนโด รูปนาฬิกา รูปมือถือ ที่เป็นของคู่สมรส
7. พยานบุคคลที่รู้เห็นการเป็นชู้
"ไม่จำเป็น" ต้องแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีการแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวกัน
" ไม่จำเป็น" ต้องเป็นการคบหาโดยเปิดเผยในที่สาธารณะ หรือมีบุคคลอื่นรู้
ดังนั้น..เพียงมีหลักฐานการสนทนาผ่านโปรแกรมไลน์หรือเฟสบุ๊กที่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายแอบคบหาและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว หรือรูปถ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้เผยแพร่หลักฐานที่แสดงว่าทั้งสองฝ่ายไปอยู่ด้วยกันในโรงแรมสองคน เช่น นี้ก็สามารถฟ้องร้องได้แล้ว
หลักฐานเกี่ยวกับการเป็นชู้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า ชู้กับคู่สมรสมีความสัมพันธ์กันในทำนองชู้สาวแล้วยังต้องมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีการแสดงตัวโดยเปิดเผยและมีบุคคลอื่นๆรับรู้ถึงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวระหว่างชู้กับคู่สมรสอีกด้วยหลักฐานเรื่องการแสดงตัวโดยเปิดเผยนั้น "ไม่จำเป็น" ต้องชัดเจนถึงขั้นมีการควงคู่กันออกงานต่างๆ มีการลงรูปในสื่อออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ก อินสตราแกรม หรือต้องจัดงานแต่งงานเสมอไป แต่ถ้าหากฝ่ายภริยาสามารถนำสืบได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างชู้กับสามีนั้น มีบุคคลอื่นๆอีกหลายคนรับรู้ ไม่ใช่เป็นการคบหากันแบบลับๆ หรือชั่วครั้งชั่วคราว โดยไม่มีใครทราบ ก็เพียงพอที่จะฟ้องคดีได้แล้ว
ดังนั้น..ความเข้าใจที่ว่าการฟ้องชู้ของภรรยานั้นจะต้องมีหลักฐานถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กันหรือต้องมีการเปิดตัวในที่สาธารณะ อย่างเดียวนั้น ยังเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกเสียที
เดียวเพราะถ้าฝ่ายภรรยาสามารถนำสืบได้ว่าถึงแม้จะเป็นการแอบคบหากันแต่ก็แอบแบบไม่มิด คนอื่นทั่วไปก็ยังรู้กันอยู่ และยังคบหากันเป็นประจำ เช่นนี้ภรรยาก็ยังสามารถฟ้องได้